ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวถึงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ ส.ค.66 ว่า
ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือน ส.ค.66 ได้ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ค. จากระดับ 53.65 จุด มาอยู่ที่ระดับ 56.26 เพิ่มขึ้น 2.61 จุด หรือคิดเป็น 4.87%
เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ที่ผ่อนคลายลง และเงินบาทที่ยังอ่อนค่าต่อเนื่องมาหนุนราคาทองในประเทศ ให้ขยับตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่าราคา gold spot จะปรับลดลง
คาดว่าเงินบาทมีโอกาสที่จะอ่อนค่าไปแตะแถว 35.80 บาทต่อดอลลาร์ เพราะดัชนีดอลลาร์ยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง ทั้งนี้ การที่ราคาทองคำไทยกับราคา gold spot ยังคงสวนทางกัน ทำให้ราคาทองคำไทยขยับในกรอบแคบ ทำให้อาจจะต้องมีการปรับแผนการลงทุน
รับชมคลิป
“โดยต้องแบ่งเป็นการซื้อเพื่อการลงทุนระยะสั้น ทำกำไรเล่นรอบ 100-200 บาท หรือประมาณ 1 % เพื่อหากระแสเงินสดเข้ามา กับอีกส่วน เป็นการออมหรือลงทุนระยะยาว เพราะมองว่าโอกาสที่ราคาทองคำจะทะลุ 33,000 บาท ก็มีความเป็นไปได้ เพราะนักวิเคราะห์ก็มองตรงกันว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะปรับลดดอกเบี้ยในช่วงหลังไตรมาส 2 ของปีหน้า ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยที่หนุนราคาทองคำ” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าว
ไปดูมุมมองของ ผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และ ผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ ร่วมให้ข้อมูลกับศูนย์วิจัยทองคำ 13 ราย ในจำนวนนี้ 6 ราย หรือเทียบเป็น 46% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน ส.ค. จะปรับตัวเพิ่มขึ้น อีก 4 ราย หรือเทียบเป็น 31% คาดว่าจะราคาทองคำจะลดลง ที่เหลือ 3 ราย หรือเทียบเป็น 23% คาดว่าราคาจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน ก.ค.
โดยผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ มองว่าราคา gold spot จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,889 – 1,995 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 31,200 – 32,400 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ ( อ่านเพิ่มเติม รายละเอียดผลสำรวจความเห็น )
ทั้งนี้ ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่า ในระยะสั้นราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ โดยแนะนักลงทุนหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาปรับตัวลดลง และขายทำกำไรจากการดีดตัวของราคาทอง แต่หากราคาทองไม่สามารถยืนอยู่เหนือแนวต้านได้ อาจต้องระมัดระวังแรงขายที่สลับออกมา
ขอขอบคุณ ที่มา : GoldAround.com
Comments are closed.