สัมภาษณ์พิเศษ ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยทองคำ – ดัชนีทองคำ ก.ค.66

871

ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวถึงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ ก.ค.66 ว่า

ราคาทองคำ ปรับลดลงจากเดือน มิ.ย. ที่ระดับ 65.71 จุด มาอยู่ที่ระดับ 53.65 ลดลง 12.06 จุด หรือคิดเป็น 18.36% ถือเป็นการร่วงลงแรงในรอบหลายปี

ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ก็ปรับตัวลงแรงเช่นกัน โดยลดลงจากไตรมาสที่ 2 จากระดับ 62.70 จุด มาอยู่ที่ระดับ 51.02 จุด ลดลง 11.68 จุด หรือคิดเป็น 18.63%

รับชมคลิป

ดัชนีฯ ที่ปรับลดลงมานั้น เนื่องมาจากความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ,ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เริ่มคลี่คลาย ,ตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น ,อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ,แนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาท และปริมาณความต้องการทองคำที่ลดลงทำให้นักลงทุนมีความต้องการซื้อทองคำในเดือน ก.ค. เพิ่มสูงขึ้น หากว่าราคามีการปรับตัวลดลง

ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และ ผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ 13 ราย 7 ราย หรือเทียบเป็น 54% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน ก.ค. จะปรับลดลง อีก 4 ราย หรือเทียบเป็น 31% คาดว่าราคาจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือนที่ผ่านมา และ 2 ราย หรือเทียบเป็น 15% คาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้น

ขณะที่ การคาดการณ์กรอบราคาทองคำในเดือน ก.ค.66 ราคา gold spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,870 – 1,970 ดอลลาร์

ส่วนทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 31,550 – 32,550 บาท ต่อน้ำหนัก 1 บาท และด้านค่าเงินบาท ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 34.26 – 35.78 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

กลยุทธ์การลงทุน ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ฯ แนะนำว่า รอให้ราคาย่อตัวลงมาแล้วเข้าซื้อสะสม ซึ่งการลงทุนยังเน้นรอบสั้น ๆ โดยราคาทองคำไทย หากเข้าซื้อที่ราคา 31,800-31,900 บาท ไปแล้ว ก็อาจจะไปรอแถว 31,600-31,550 บาท หากว่าราคาลงมาถึง และอาจจะขายทำกำไรแถว 31,100-31,200 บาท และรอให้ราคาย่อตัวเพื่อเข้าซื้ออีกครั้ง

ดร.พิบูลย์ฤทธิ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะปรับลดลงต่อเนื่อง แต่ยังคงต้องรอดูนโยบายของ FED ว่าจะดำเนินการอย่างไรก็ต่อไป หลังจากที่การประชุมในเดือนนี้น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% แต่เนื่องจากดอกเบี้ยในขณะนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมากแล้ว

โดยคาดการณ์ว่าหาก FED จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมแล้ว แต่ก็อาจจะคงดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไปอีกระยะ เพราะเมื่อไปดูตัวเลขเงินเฟ้อที่ลดลง มาจากราคาพลังงานที่ปรับลดลง หากว่าราคากลับมาปรับเพิ่มสูงขึ้น ตัวเลขเงินเฟ้ออาจจะดีดกลับได้ ซึ่งการที่ FED ยังคงดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง จะเป็นแรงกดดันให้ราคาทองคำไม่สามารถปรับเพิ่มสูงขึ้นได้

ส่วนราคาทองคำไทย ยังคงต้องคำนึงถึงค่าเงินบาท ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะแข็งค่าขึ้น หากการเมืองภายในประเทศ ได้ข้อยุติโดยเร็ว ทั้งนี้ ส่วนตัวก็ยังหวังว่าจะได้เห็นความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อมาจัดทำนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ที่มา : GoldAround.com

Comments are closed.